เมนู

นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ถ้าพระอาทิตย์แผดแสงแรงกล้าเป็นนิตย์ ก็เหตุไรในบางที
จึงแผดแสงอ่อน บางทีจึงแผดแสงกล้าเล่า พระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรวิสัชนาว่า จตฺตาโรเม มหาราช ดูรานะบพิตรผู้เป็นราชา
แห่งชาวสาคลนครผู้ประเสริฐ โรคของพระอาทิตย์มีอยู่ 4 อย่าง พระอาทิตย์ถูกโรคใดโรคหนึ่ง
เบียดเบียนแล้วย่อมแผดแสงน้อยไป โรค 4 อย่างนั้น คือหมอกอย่าง 1 ควันอย่าง 1 เมฆอย่าง
1 ราหูอย่าง 1 พระอาทิตย์เมื่อโรค 4 อย่างใดอย่างหนึ่งเบียดเบียน ย่อมแผดแสงอ่อน
คือ เมื่อถูกหมอกเบียดเบียนก็แผดแสดงอ่อน เมื่อถูกควันเบียดเบียนก็แผดแสงอ่อน เมื่อถูกเมฆ
เบียดเบียดก็แผดแสงอ่อน เมื่อถูกราหูเบียดเบียนก็แผดแสงอ่อนดังนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี เมื่อพระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนามาดังนี้แล้ว
ตรัสว่า อจฺฉริยํ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ประหลาดจริงนะพระผู้เป็นเจ้า
แม้พระอาทิตย์มีเดชมากสมบูรณ์ไปด้วยเดชเห็นปานนี้ ยังมีโรคบังเกิดขึ้นได้ จะป่วยกล่าวไปไย
โรคทั้งหลายจึงจักไม่บังเกิดแก่สัตว์อื่น ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า การอธิบายจำแนกแจกจ่ายขยายความ
โยมยกให้พระผู้เป็นเจ้า ผู้อื่นนอกจากท่านที่มีปัญญาเช่นพระผู้เป็นเจ้าแล้วเป็นอธิบายไม่ได้
โยมขอรับจดจำไว้ ณ กาลบัดนี้
สุริยโรคภาวปัญหา คำรบ 3 จบเพียงนี้

สุริยตัปปภาวปัญหา ที่ 4


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชามหิศราธิบดี มีพระราชโองการดำรัสตรัสถามปัญหาอื่น
สืบไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา โยมนี้มีความสงสัย เหตุไฉนในเหมันตฤดู
พระอาทิตย์จึงแผดแสงกล้า ในคิมหฤดูเหตุไฉนจึงแผดแสงอ่อนไป ไม่แผดแสงกล้าเหมือนอย่างนั้น
พระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนาว่า คิมฺเหสุ มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร
ในคิมหฤดูทั้งหลายมีละอองน้ำตกน้อย มักจะตั้งอยู่เสียในเบื้องบน ไม่ค่อยจะตกลงมา อนึ่ง เรณู
ละอองทั้งหลายก็ย่อมฟุ้งไปตามท้องฟ้า แม้ในอากาศก็มีหมอกมาก ทั้งลมใหญ่ก็พัดจัด สิ่งทั้ง
ปวงมีละอองน้ำเป็นต้นนั้น จึงอากูลเรี่ยรายไปในที่ต่าง ๆ รวมกำลังช่วยกันบังแสงพระอาทิตย์
เสีย เหตุฉะนั้น ในคิมหฤดู พระอาทิตย์จึงแผดแสงอ่อน